ตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ไม่มีใครไม่รู้จัก ยังไงก็ต้องยกให้กับตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกากันอย่างแน่นอน แต่จะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะสามารถให้ผลตอบแทนดีและตอบโจทย์ความต้องการได้จริง ดังนั้นเพื่อเป็นการทำความรู้จักเราจะพาไปดูว่าจริง ๆ แล้วตลาดหุ้นอเมริกา คือ อะไร, มีความเสี่ยงเท่าไหร่และรายละเอียดอื่น ๆ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจและนำไปศึกษาเพิ่มเติม
ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา คือ อะไร
สำหรับนิยามของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา คือ ศูนย์กลางการซื้อขายหุ้นหรือที่ใครรู้จักกันในชื่อของตราสารทุนของบริษัทที่มีการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของอเมริกา ซึ่งมีกลไกแบบเดียวกันกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตัวอย่างบริษัทที่มีการจดทะเบียนในตลาดหุ้นของสหรัฐอเมริกา เช่น Google, Facebook, Amazon, Netflix, Alibaba
โดยมีตลาดหุ้นหลักอยู่ด้วยกัน 2 แห่ง คือ ตลาด Nasdaq หรือ Nasdaq Stock Exchange และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กหรือ New York Stock Exchange ซึ่งนักลงทุนสามารถเลือกได้ว่าจะลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศหรือหุ้นนั่นเอง
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับตลาดหุ้นสหรัฐ
ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกามีอยู่ด้วยกันหลายเรื่อง ได้แก่
1. ช่วงเวลาการเปิดปิดตลาดหุ้น
ตลาดหุ้นสหรัฐเปิดเวลา 19 : 00 น. ตามเวลาประเทศไทยและปิดเวลา 03 : 00 น. ตามเวลาประเทศไทย หรือเช้าวันใหม่ของวันถัดไป
2. ดัชนีที่ได้รับความนิยมในตลาดหุ้นอเมริกา
มีด้วยกันทั้งหมด 3 ดัชนีหุ้นหลัก ๆ ได้แก่
- ดัชนี Nasdaq 100 ศูนย์รวมของบริษัทในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีกว่า 100 บริษัท
- ดัชนี S&P 500 ศูนย์รวมของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กว่า 500 บริษัท
- ดัชนีดาวโจนส์ 30 ศูนย์รวมของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อเมริกา 30 บริษัทที่ผ่านการประเมินว่ามีความสำคัญต่อการสะท้อนภาพรวมของตลาด
3. ความเสี่ยง
ตลาดหุ้นสหรัฐจัดได้ว่าเป็นตลาดที่ค่อนข้างมีความเสี่ยงและมีความผันผวนสูงมาก นักลงทุนที่ต้องการเข้ามาลงทุนจึงจำเป็นต้องคำนึงถึงความเสี่ยงมากเป็นอันดับต้น ๆ ก่อนตัดสินใจ แม้มีปัจจัยต่าง ๆ ช่วยให้สามารถคาดเดาความเป็นมาเป็นไปของตลาดได้ก็ตาม
4. แพลตฟอร์มที่ใช้ในการเทรด
แพลตฟอร์มยอดนิยมที่มักใช้ในการเทรดหุ้นอเมริกาอยู่ด้วยกัน 2 แพลตฟอร์ม คือ MT4 และ MT5 ซึ่งจะเลือกแบบไหนขึ้นอยู่กับความยากง่ายในการใช้งานหรือความต้องการของแต่ละคน จำเป็นต้องลองใช้ด้วยตัวเองดูก่อนจึงจะตัดสินใจได้ว่าควรเลือกแบบไหน
การตัดสินใจลงทุนอย่าลืมให้ความสำคัญกับการเลือกโบรกเกอร์
หลังจากตัดสินใจได้อย่างชัดเจนแล้วว่าจะลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ขอแนะนำว่าอย่าเพิ่งลงทุนจนกว่าคุณจะรู้วิธีการเลือกโบรกเกอร์ที่ดีก่อน
- ประสบการณ์การให้บริการต้องมีไม่ต่ำกว่า 5 – 10 ปี
- มีความมั่นคงทางการเงินสูง
- มีแหล่งที่ตั้งชัดเจนตรวจสอบได้
- ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีหลักฐานยืนยันไม่ใช่แค่บอกว่าได้รับใบอนุญาต
- มีการกำหนดค่า leverage ไม่สูงเกินไป เฉลี่ยไม่เกิน 1 : 400 หากมากกว่านี้เท่ากับว่าโบรกเกอร์ต้องการมอบความเสี่ยงให้กับเราเพื่อให้เราสูญเสียอะไรบางอย่าง
และสุดท้ายอย่าลืมถามตัวเองให้แน่ใจอีกครั้งหนึ่งว่าสามารถรับอยู่กับความเสี่ยงสูงได้หรือไม่ เพราะไม่ว่าจะเป็นการลงทุนแบบไหนหรือมาพร้อมกับความเสี่ยงทางด้านเงินทุน, กำไรและเวลา ยิ่งเป็นการตัดสินใจลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาด้วยแล้วยิ่งเสี่ยงและต้องรอบคอบให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้